ถึงเวลาออกไปสูดอากาศบริสุทธิ์ รีเฟรชร่างกายให้สดชื่นกับ 8 แหล่งโอโซน ในไทย กันแล้วค่า ยิ่งในช่วงหน้าฝนแบบนี้อากาศก็ยิ่งเย็นสบาย เต็มไปด้วยต้นไม้ใบหญ้าสีเขียวขจี เห็นแล้วร่มรื่นสบายตาสุดๆ ถ้าไม่อยากพลาด ที่เที่ยวธรรมชาติ สวยๆ กรีนๆ ก็รีบตามมาเลย ดูหนังฟรีออนไลน์

แหล่งโอโซน ในไทย

ฟอกปอดที่ธรรมชาติกรีนๆ

1. หมู่บ้านคีรีวง

นครศรีธรรมราช

      เริ่มด้วยแหล่งโอโซนอันดับ 1 ของประเทศไทย บ้านคีรีวง จังหวัดนครศรีธรรมราช เดิมบ้านคีรีวงมีชื่อว่า บ้านขุนน้ำ เพราะตั้งอยู่บริเวณต้นน้ำจาก ยอดเขาหลวง แต่หลังจากนั้นก็เปลี่ยนชื่อมาเป็น บ้านคีรีวง ที่แปลว่า หมู่บ้านที่ล้อมรอบด้วยขุนเขาค่ะ ส่วนใหญ่แล้วชาวบ้านจะทำอาชีพ ปลูกสวนผลไม้ผสม หรือ สวนสมรม มีผลไม้มากมาย เช่น มังคุด เงาะ ทุเรียน และ สะตอ เป็นต้น

      แลนมาร์คที่พลาดไม่ได้เลยเมื่อมาเยือน บ้านคีรีวง คือ สะพานบ้านคีรีวง ค่ะ เรียกว่าเป็นจุดที่ต้องมาถ่ายรูปให้ได้ นอกจากนั้นก็ยังมีที่เที่ยวอื่นๆ เช่น คลองหนานหินท่าหา สะพานแขวน-ท่าหา ถ้ำน้ำวังศรีธรรมโศกราช น้ำตกวังไม้ปัก และ ตลาดบ้านคีรีวง ให้ทุกคนชมธรรมชาติสวยๆ และสัมผัสกับวิถีชีวิตอันเรียบง่ายของชุมชมบ้านคีรีวงได้อย่างเต็มอิ่มเลยค่ะ 

• ที่อยู่ : หมู่บ้านคีรีวง ตำบลกำโลน อำเภอลานสกา จังหวัดนครศรีธรรมราช
• พิกัด : https://goo.gl/maps/UEHb645GGp7aeiYBA 
• เปิดให้เข้าชม : ทุกวัน
• โทร : 0-7553-3111
• เว็บไซต์ : –

2. เขื่อนเชี่ยวหลาน เขาสก

สุราษฎร์ธานี

     ไปพายเรือคายัค นอนแพ ดูดาวท่ามกลางสายน้ำและขุนเขาที่ เขื่อนเชี่ยวหลาน หรือ เขื่อนรัชชประภา ทะเลสาบอันกว้างใหญ่ใน อุทยานแห่งชาติเขาสก จังหวัดสุราษฎร์ธานี กันค่ะ นอกจากเป็นเขื่อนอเนกประสงค์ที่เอื้อประโยชน์ให้กับชาวบ้านและชาวประมงแล้ว ที่นี่ยังเป็นแหล่งรวมธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ มีทิวทัศน์ที่สวยงามจนถูกขนานนามว่าเป็น กุ้ยหลิน เมืองไทย ซึ่งไฮไลท์ของที่นี่ก็คือ เขาสามเกลอ เขาหินปูนที่ตั้งเรียงกันสามลูก ถือเป็นสัญลักษณ์ของที่นี่เลยค่ะ นอกจากนี้ในอุทยานแห่งชาติเขาสกยังมีสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ อีกมากมาย เช่น ทะเลใน เขตรักษาสัตว์ป่าคลองแสง และ ถ้ำปะการัง เป็นต้น

• ที่อยู่ : บ้านเชี่ยวหลาน ตำบลเขาพัง อำเภอบ้านตาขุน จังหวัดสุราษฎร์ธานี
• พิกัด : https://goo.gl/maps/pfVZmdpaWfzPKV6NA
• เปิดให้เข้าชม : เข้าชมได้ตลอดทั้งวัน
• โทร : –
• เว็บไซต์ : –

3. ปางอุ๋ง

แม่ฮ่องสอน

       ไปกุ้ยหลินเมืองไทยมาแล้ว เราก็ไปต่อกันที่ สวิตเซอร์แลนด์เมืองไทย อย่าง ปางอุ๋ง จังหวัดแม่ฮ่องสอน กันเลย ภาพที่เห็นตรงหน้าคือทิวสนอันแน่นโอบลอบผืนน้ำของทะเลสาบอันกว้างใหญ่ มีฝูงหงส์มากมายที่แหวกว่ายอยู่บนน้ำอย่างสง่างาม บรรยากาศอันแสนสุนทรีย์และอากาศที่เย็นสบายตลอดปีทำให้คิดว่าตัวเองมาเที่ยวประเทศสวิตเซอร์แลนด์จริงๆ เลยค่ะ ยิ่งถ้าไปในช่วงหน้าหนาว หมอกก็จะเยอะเป็นพิเศษ แต่ก็ไม่ได้หนาเกินจนมองอะไรไม่เห็นนะคะ ถือเป็นองค์ประกอบทางธรรมชาติชั้นดีที่ทำให้ทิวทัศน์ของปางอุ๋งสวยขึ้นไปอีก

• ที่อยู่ : บ้านรวมไทย ตำบลหมอกจำแป่ อำเภอเมือง จังหวัดแม่ฮ่องสอน
• พิกัด : https://goo.gl/maps/dQ2T22PEkuSzxgBAA 
• เปิดให้เข้าชม : 05:30-18:00 น.
• โทร : 0-5361-1244 , 08-5618-3303
• เว็บไซต์ : –

4. แม่กำปอง

เชียงใหม่

      ถ้าอยากหนีความวุ่นวายไปใช้ชีวิตแบบสโลว์ไลฟ์ บ้านแม่กำปอง จังหวัดเชียงใหม่ ถือเป็นตัวเลือกที่ดีเลยค่ะ เพราะเป็นหมู่บ้านที่ซ่อนตัวอยู่ในหุบเขา ตั้งอยู่สูงกว่าระดับน้ำทะเลถึง 1,300 เมตร จึงทำให้ที่นี่มีอากาศเย็นสบายตลอดปี ล้อมรอบไปด้วยต้นไม้ใหญ่และธรรมชาติอันร่มรื่น และมีบรรยากาศอันเงียบสงบ บ้านเรือนส่วนใหญ่ยังคงเป็นเรือนไม้ และชาวบ้านก็ยังคงใช้ชีวิตอย่างเรียบง่าย ไม่หวือหวา แต่ก็มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน แถมยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจอีกมากมาย เช่น น้ำตกแม่กำปอง ผาน้ำลอด จุดชมวิวทะเลหมอกกิ่วฝิ่น และ โครงการหลวงตีนตก ที่พร้อมให้ทุกคนได้ไปชาร์จแบ็ตพลังชีวิตได้เป็นอย่างดีเลยค่ะ

• ที่อยู่ : หมู่ที่ 3 ตำบลห้วยแก้ว กิ่งอำเภอแม่ออน จังหวัดเชียงใหม่
• พิกัด : https://goo.gl/maps/y3WsaB41aYTG1xmu6 
• เปิดให้เข้าชม : เปิดให้เข้าชมตลอดทั้งวัน
• โทร : 09-5457-5725
• เว็บไซต์ : https://www.facebook.com/Banmaekampong/ 

5. บ้านป่าบงเปียง

เชียงใหม่

       บ้านป่าบงเปียง อำเภอแม่แจ่ม ถือเป็นแหล่งโอโซนอีกแห่งหนึ่งในจังหวัดเชียงใหม่ที่มีทิวทัศน์สวยงามมากๆ โดยเฉพาะ นาขั้นบันได ที่ทอดตัวลงมาเป็นลำดับขั้นจากเนินเขาอย่างเป็นระเบียบ ไล่กับภูเขาสีเขียวเข้ม และตัดกับท้องฟ้าสีฟ้าสดใสได้เป็นอย่างดี หากมาในช่วงหน้าฝนระหว่างเดือนกันยายน-ตุลาคมก็จะเห็นความเขียวชอุ่มของทุ่งนาและธรรมชาติรอบข้าง แต่ถ้ามาในช่วงปลายฝนต้นหนาวตั้งแต่เดือนตุลาคมเป็นต้นไปก็จะเริ่มเข้าสู่ฤดูเก็บเกี่ยว รวงข้าวจะเปลี่ยนเป็นสีเหลืองทอง ทำให้ทิวทัศน์ตรงหน้าสวยไปอีกแบบ

• ที่อยู่ : ตำบลช่างเคิ่ง อำเภอแม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่
• พิกัด : https://goo.gl/maps/jWGqT4YCZioYQ9517 
• เปิดให้เข้าชม : เข้าชมได้ตลอดทั้งวัน
• โทร : –
• เว็บไซต์ : –

6. บ้านนาคูหา

แพร่

     เที่ยว บ้านคูหา จังหวัดแพร่ สัมผัสความเงียบสงบและอากาศอันบริสุทธิ์อย่างแท้จริงในหมู่บ้านเล็กๆ กลางหุบเขา ที่ถูกจัดให้เป็น 1 ใน 5 เส้นทางการท่องเที่ยวเกษตรสีเขียวของ Gastronomy หรือ กิจกรรมท่องเที่ยวเชิงอาหารค่ะ ไฮไลท์ของที่นี่คือ สะพานไม้ไผ่กลางทุ่งนา ที่จะพาเราเดินข้ามผ่านทุ่งนาสีเขียวไปถึง วัดนาคูหา ที่ประดิษฐาน พระเจ้าตนหลวง องค์พระพุทธรูปขนาดใหญ่ที่ถือลูกสมอเพียงองค์เดียวในประเทศไทย ผู้ใดที่ประสงค์ไปกราบไหว้ขอพรต้องถวายด้วยลูกสมอเท่านั้นค่ะ ซึ่งท่าจะให้พรเกี่ยวกับสุขภาพ ให้มีสุขภาพแข็งแรงปราศจากโรคภัย นอกจากนี้ก็ยังได้สัมผัสกับความเป็นอยู่ของหมู่บ้าน ทั้งการทำไร่ทำนา ปลูกผักปลอดสารพิษเพื่อไปขาย เช่น เตา (เทา) สาหร่ายจากแหล่งน้ำจืดที่นำมาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ ให้เราได้ชิมกัน

• ที่อยู่ : บ้านนาคูหา หมู่5 ตำบลสวนเขื่อน อำเภอเมืองแพร่ จังหวัดแพร่
• พิกัด : https://goo.gl/maps/fATt4mMuadaZGNhr8 
• เปิดให้เข้าชม : 06.00-18.00 น.
• โทร : 0-5464-5688
• เว็บไซต์ : –

7. วังน้ำเขียว

นครราชสีมา

     ถ้ากำลังหาที่เที่ยวอากาศดีๆ ใกล้กรุงเทพฯ ไว้ฟอกปอด แนะนำให้ไป อำเภอวังน้ำเขียว จังหวัดนครราชสีมาค่ะ ที่นี่เป็นแหล่งรวมสถานที่ท่องเที่ยวสวยๆ ไว้มากมาย ทั้งสวนดอกไม้ ฟาร์มแกะ ภูเขา อย่างเช่น เขาแผงม้า และ ผาเก็บตะวัน น้ำตกม่านฟ้า และ อ่างเก็บน้ำลำพระเพลิง ถือเป็นอีกหนึ่งอำเภอในนครราชสีมาที่ห้ามพลาดเลยทีเดียวค่ะ

• ที่อยู่ : อำเภอวังน้ำเขียว จังหวัดนครราชสีมา
• พิกัด : https://goo.gl/maps/QgUCM6RvS1YWFn4K8 
• เปิดให้เข้าชม : เข้าชมได้ตลอดทั้งวัน
• โทร : –
• เว็บไซต์ : –

8. บางกะเจ้า

สมุทรปราการ

      มาถึง บางกะเจ้า จังหวัดสมุทรปราการ พื้นที่สีเขียวอีกแห่งหนึ่งที่อยู่ใกล้กรุงเทพฯ มากๆ เดินทางไปแป๊บเดียวก็ถึง ที่นี่เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ที่มีพื้นที่กว่า 12,000 ไร่ และครอบคลุม 6 ตำบล เต็มไปด้วยธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์และวิถีชีวิตของชาวบ้านที่สร้างรายได้จากทรัพยากรณ์ธรรมชาติที่มีอยู่รอบกายค่ะ และด้วยพื้นที่อันกว้างใหญ่ของที่นี่จึงเหมาะที่สุดกับการขี่จักรยานเดินทาง แถมยังได้แวะชิมของกินอร่อยๆ ที่ตลาดได้อีกด้วย

• ที่อยู่ : ตำบลบางกะเจ้า อำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ
• พิกัด : https://goo.gl/maps/pCvqLVPNj8TstmRM6 
• เปิดให้เข้าชม : เข้าชมได้ตลอดทั้งวัน
• โทร : –
• เว็บไซต์ : –