เมืองในฝันนี้มีชื่อว่า “THE LINE” และมันเป็นเมืองทางยาวเหมือนถนนสมกับชื่อจริงๆ แต่มีความล้ำยุคกว่ามากเหมือนกับอยู่ในหนังไซไฟ

ถ้าดูจากภาพถ่ายทางอากาศ เมืองนี้จะคล้ายกับถนนที่พาดผ่านทะเลทราย เพราะมันเป็นเมืองที่สร้างเป็นแนวเส้นยาว (Linear) โดยมีความกว้างเพียง 200 เมตร แต่มีความยาวถึง 170 กิโลเมตร

ดังนั้น การอยู่อาศัยในเมืองนี้จึงเป็นการใช้ชีวิตแบบ “แนวตั้ง” (Vertical) หรือเป็นอาคารตึกสูงที่วัสดุภายนอกเป็นกระจกทั้งหมด จึงไม่น่าแปลกใจที่ภาพการออกแบบภายนอกจะเห็นเป็นแนวกระจกยาวไปตลอดเส้นทาง ตัดกับความแห้งแล้งของทะเลทรายในซาอุดิอาระเบียได้อย่างน่าแปลกตา แถมข้างในยังล้ำยุคไปด้วยเทคโนโลยีต่างๆ ใช้พลังงานหมุนเวียนแบบ 100% มีทั้งพื้นที่สีเขียวและสิ่งจำเป็นต่างๆ ที่จำเป็นอยู่ในนี้แล้ว

ทั้งหมดนี้คือ THE LINE เมืองในฝันที่ซาอุฯ หมายมั่นจะปั้นให้เป็นจริงในอนาคต ภายใต้วิสัยทัศน์ Saudi 2030

ที่จริงแล้ว THE LINE เป็นส่วนหนึ่งของโครงการเมืองใหม่ของซาอุดิอาระเบีย เจ้าชายโมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน มกุฎราชกุมารแห่งซาอุดีอาระเบีย และประธานคณะกรรมการบริษัทนิออม (NEOM) ระบุว่า THE LINE เป็นการพลิกโฉมเมืองสู่ความศิวิไลซ์โดยให้ความสำคัญกับคนเป็นอันดับแรก ควบคู่กับการอนุรักษ์ธรรมชาติโดยรอบ โดยเมื่อเดือนมกราคม 2564 เจ้าชายโมฮัมเหม็ดได้นำเสนอแนวคิดและวิสัยทัศน์เบื้องต้นของชุมชนแห่งนี้ ซึ่งกำหนดนิยามใหม่ของการพัฒนาเมืองและภาพของเมืองแห่งอนาคต

THE LINE จะเป็นเมืองที่ฉีกทุกกฎอย่างที่ไม่เคยมีใครทำได้มาก่อน ด้วยการออกแบบให้มันเป็นเมืองทางยาว (Linear) ที่มีความกว้างเพียง 200 เมตร แต่มีความยาวถึง 170 กิโลเมตร จึงต้องเป็นเมืองแนวตั้ง จึงจะก่อสร้างอาคารสูง 500 เมตร เป็นเหมือนกำแพงไปตลอดเส้นทาง บนพื้นที่ 34 ตร.กม. สามารถรองรับพลเมืองได้ 9 ล้านคน

จากภาพดีไซน์จะเห็นว่า อาคารแนวสูง 500 เมตร ที่ภายนอกเป็นกระจกนั้น จะทำให้เมือง THE LINE เป็นเหมือนกับปราการแนวกระจกขนาดใหญ่ที่ถอดผ่านสุดลูกหูลูกตา โดยจะมีทั้งส่วนที่เชื่อมจากพื้นที่แนวชายฝั่ง ไปจนถึงทะเลทราย และภูเขาสูง

เนื่องจากเป็นเมืองแนวตั้ง (Verticle) การอยู่ในเมืองนี้จึงเป็นการใช้ชีวิตในตึกสูง แต่ก็จะเป็นป่าคอนกรีตที่มีพื้นที่สีเขียวและธรรมชาติให้เหมาะสมสำหรับการอยู่อาศัยด้วย

การออกแบบ THE LINE สะท้อนภาพชุมชนเมืองในอนาคต ท่ามกลางสภาพแวดล้อมที่ไร้ถนน รถยนต์ และมลพิษ โดยจะใช้พลังงานหมุนเวียน 100% และให้ความสำคัญกับธรรมชาติมากกว่าการพัฒนา โดยจะช่วยอนุรักษ์พื้นที่ 95% ของเมืองใหม่ NEOM

สภาพภูมิอากาศที่เอื้ออำนวยตลอดทั้งปียังเปิดโอกาสให้ผู้อยู่อาศัยสามารถเดินชมธรรมชาติโดยรอบได้อย่างเพลิดเพลิน ตลอดจนเข้าถึงสิ่งอำนวยความสะดวกทั้งหมดใน THE LINE โดยใช้เวลาเดินเพียง 5 นาที อีกทั้งยังสามารถเดินทางด้วยรถไฟความเร็วสูงที่ใช้เวลาเดินทางจากต้นทางถึงปลายทางเพียง 20 นาทีเท่านั้น