ซาอุดีอาระเบีย เมื่อเศรษฐีน้ำมันเผชิญปัญหารุมเร้าทั้งเศรษฐกิจและการเมืองระหว่างประเทศ

ซาอุดีอาระเบีย เมื่อเศรษฐีน้ำมันเผชิญปัญหารุมเร้าทั้งเศรษฐกิจและการเมืองระหว่างประเทศ

ซาอุดิ อรัมโค ซึ่งเป็นบริษัทน้ำมันแห่งชาติของซาอุดีอาระเบียมีผลกำไรลดลง 25% ในไตรมาสแรกของปี สาเหตุหลักก็คือราคาน้ำมันดิบที่ดิ่งลง

“มาตรการเหล่านี้สะท้อนให้เห็นถึงความจำเป็นในการคุมค่าใช้จ่ายและพยายามให้ราคาน้ำมันคงที่” ไมเคิล สตีเฟนส์ นักวิเคราะห์ด้านอ่าวอาหรับกล่าว เขาบอกด้วยว่า สภาพเศรษฐกิจของประเทศกำลังย่ำแย่และต้องใช้เวลาอีกสักพักกว่าจะกลับมาเป็นปกติ

คนเติมน้ำมันที่ปั๊มน้ำมัน

โรคโควิด-19 กำลังสร้างความปั่นป่วนให้เศรษฐกิจซาอุดีอาระเบีย ซึ่งพึ่งพาแรงงานทักษะต่ำหลายล้านคนจากเอเชีย โดยมากแรงงานเหล่านี้อาศัยในสถานที่แออัดและสกปรก

ขณะเดียวกัน เจ้าชายโมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน ซึ่งยังได้รับความนิยมในประเทศอย่างมาก ก็ยังถูกชาติตะวันตกตีตัวออกห่างหลังมีข้อสงสัยว่าพระองค์พัวพันกับคดีสังหารจามาล คาชูจกิ นักข่าวซาอุฯ ในปี 2018 นับจากนั้นมาความมั่นใจในการเข้ามาลงทุนของต่างชาติก็ลดถอยลง และยังไม่ฟื้นตัวจนถึงบัดนี้

นอกจากนี้ สงครามกับเยเมนที่ยืดเยื้อมากว่า 5 ปี ก็ทำให้ซาอุฯ แทบหมดหน้าตักโดยที่ไม่ได้ประโยชน์อะไร และยังมีวิกฤตการทูตกับกาตาร์ที่ส่งผลให้ความสัมพันธ์ระหว่าง 6 ประเทศในกลุ่มประเทศความร่วมมือแห่งอาหรับสั่นคลอน

ปัญหารอบด้านแบบนี้ ซาอุฯ กำลังเจอวิกฤตหนักหรือไม่

พลังฟื้นตัวจากภายใน

หากมองภาพรวม สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่นี้ทำให้เศรษฐกิจทั่วโลกพังไปตาม ๆ กัน ซึ่งนั่นก็รวมซาอุฯ ด้วย

ป้ายชื่อบริษัทน้ำมัน
คำบรรยายภาพ,บริษัทผู้ผลิตน้ำมันแห่งชาติของซาอุดีอาระเบียเป็นบริษัทที่มีมูลค่ามากที่สุดในโลก

ซาอุฯ มี Public Investment Fund ซึ่งเป็นกองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติมูลค่าราว 3.2 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ไว้พึ่งพิง และยังมี ซาอุดิ อะแรมโค บริษัทน้ำมันแห่งชาติซึ่งมูลค่า ณ ปีที่แล้วอยู่ที่ 1.7 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เทียบเท่ากับมูลค่าในตอนนั้นของกูเกิลและแอมะซอนมารวมกัน เมื่อขายหุ้นเสี้ยวหนึ่งของบริษัท เพียง 1.5% ก็ระดมทรัพย์ได้มากกว่า 2.5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เป็นมูลค่าสูงสุดในประวัติศาสตร์การจดทะเบียนหุ้น

“ซาอุดีอาระเบียมีปัจจัยภายในหลายอย่างที่ทำให้ฟื้นตัวรับสถานการณ์ได้” เซอร์ วิลเลียม เพทีย์ อดีตเอกอัครราชทูตอังกฤษประจำกรุงริยาดช่วงปี 2007-2010 บอก “ประเทศมีแหล่งเงินสำรองมากมายที่จะช่วยให้เดินหน้าต่อไปได้ และยังผ่านพ้นช่วงราคาน้ำมันร่วงไปได้ด้วยส่วนแบ่งในตลาดน้ำมันโลกที่ไม่ตกลงหรือดีขึ้นด้วยซ้ำ” เขากล่าวเสริม

ภัยคุกคามจากอิหร่านดูเหมือนว่าตอนนี้จะแผ่วลง หลังเรือบรรทุกน้ำมันอิหร่านถูกโจมตีด้วยขีปนาวุธเมื่อก.ย. ปีที่แล้ว และตามมาด้วยกรณีนายพลคาเซ็ม สุเลมานีถูกสหรัฐฯ สังหาร

ในเดือนนี้ กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ยกเลิกการส่งแท่นยิงขีปนาวุธแพทริออตเพื่อใช้เป็นระบบป้องกันฉุกเฉินให้ซาอุฯ หลังภัยคุกคามจากการก่อร้ายในประเทศจากกลุ่มจีฮัดที่เชื่อมโยงกับกลุ่มรัฐอิสลามและอัลกออิดะห์ในช่วงนี้ลดน้อยลงมาก แต่ซาอุฯ ก็ยังต้องเผชิญความท้าทายอีกหลายประการ

เศรษฐกิจ

สัปดาห์นี้รัฐบาลประกาศมาตรการรัดเข็มขัด ซึ่งประชาชนจำนวนมากก็ไม่เห็นด้วย เพราะอยากให้ประเทศมีทางเลือกทางเศรษฐกิจมากกว่าการพึ่งพิงน้ำมัน แม้แต่รมว. คลังยังบอกว่า “มันเป็นมาตรการที่เจ็บปวด”

รัฐบาลต้องการลดค่าใช้จ่ายราว 2.6 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ แต่เฉพาะในเดือนมี.ค. ธนาคารกลางของประเทศก็รายงานความเสียหายที่เกิดจากโรคโควิด-19 บวกกับภาวะราคาน้ำมันตกในตัวเลขใกล้เคียงกัน

ตึกสูงระฟ้าในซาอุฯ
คำบรรยายภาพ,ปัญหาเศรษฐกิจส่งผลให้โครงการทั่วประเทศต้องหยุดชะงัก

ช่วงไตรมาสแรกของปี รัฐบาลขาดดุลงบประมาณถึง 9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่รัฐบาลซาอุฯ ต้องใช้นโยบายรัดเข็มขัด ย้อนไปเมื่อเดือน พ.ค. 1998 ที่การประชุมกลุ่มประเทศความร่วมมืออ่าวอาหรับในนครอาบูดาบี เจ้าชายอับดุลลาห์ ก็ประกาศเตือนบรรดาผู้นำของชาติอาหรับ

“ราคาน้ำมันอยู่ที่บาร์เรลละ 9 ดอลลาร์สหรัฐฯ” พระองค์ตรัส “ช่วงเวลาดี ๆ หมดไปแล้วและจะไม่หวนมาอีก ถึงเวลาแล้วที่เราต้องรัดเข็มขัด”

ต่อมาราคาน้ำมันพุ่งไปที่บาร์เรลละกว่า 100 ดอลลาร์สหรัฐฯ หลังจากที่รัฐบาลประกาศระงับการจ้างงานและชะลอโครงการก่อสร้างทั่วประเทศ แต่สถานการณ์ในปัจจุบันอาจหนักหนากว่าตอนนั้น

ทั้งโรคระบาดและราคาน้ำมันตกทำให้โครงการทั่วประเทศล้มครืน ก่อให้เกิดคำถามว่าแผนงาน วิสัยทัศน์ซาอุฯ 2030 ของเจ้าชายจะเป็นจริงได้หรือไม่

คนโดนตรวจอุณหภูมิ
คำบรรยายภาพ,ซาอุดีอาระเบียเป็นหนึ่งในประเทศที่มีอัตราการติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่สูงสุดในตะวันออกกลาง

แผนงานดังกล่าวมุ่งหมายให้ประเทศลดการพึ่งพิงทางเศรษฐกิจจากน้ำมันและแรงงานต่างชาติแบบที่เป็นมาช้านาน โดยหันเป้าไปทุ่มเงิน 5 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ พัฒนาเมืองแห่งอนาคตนีออม (NEOM) ทางการบอกว่าโครงการยังเดินหน้าต่อไป แต่นักวิเคราะห์ส่วนมากบอกว่า เลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องประสบความล่าช้า

สตีเฟนส์ นักวิเคราะห์ด้านอ่าวอาหรับบอกว่าภาคเอกชนจะได้รับผลกระทบมากที่สุดจากมาตรการรัดเข็มขัด “มาตรการฉุกเฉินของซาอุฯ กำลังทำร้ายบรรดานายจ้าง และจะทำให้ประเทศฟื้นตัวได้ยากในระยะยาว”

ที่ยืนในเวทีโลก

คดีสังหารนายคาชูจกิ สร้างความมัวหมองให้ชื่อเสียงของซาอุฯ ทูตซาอุฯ ประจำกรุงลอนดอนบอกว่าเรื่องนี้ “สร้างรอยด่างให้ชื่อเสียงของเรา”

การพิจารณาและตัดสินคดีที่ตามมา กลับทำให้ผู้ต้องสงสัยหลักบางคนได้รับอิสรภาพ และถูกกลุ่มปกป้องสิทธิมนุษยชนและสหประชาชาติวิจารณ์ว่าเป็นการวิสามัญฆาตกรรม

โดนัลด์ ทรัมป์ กับเจ้าชายโมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน

แต่เศรษฐกิจของซาอุฯ ยิ่งใหญ่และสำคัญเกินกว่าที่นานาชาติจะเมินเฉย

เมื่อเร็ว ๆ นี้ซาอุฯ พยายามมองหาหนทางในการลงทุนในกิจการขนาดใหญ่หลายโครงการ อย่างเช่นการยื่นข้อเสนอเข้าถือหุ้น 80% ในสโมสรฟุตบอลนิวคาสเซิลยูไนเต็ด ทั้งนี้ ฮาติซ เซนกิซ คู่หมั้นม่ายของนายคาชูจกิ ต่อต้านความพยายามนี้โดยบอกว่าผิดหลักจริยธรรม

ในสงครามเยเมน ซาอุฯมีส่วนในปฏิบัติการโจมตีทางอากาศโดยเครื่องบินรบที่ได้มาจากสหรัฐฯ และสหราชอาณาจักร สงครามนี้ถูกมองว่าเป็นอาชญากรรมสงครามที่กระทำโดยทุกฝ่ายที่เข้าร่วม แต่จำนวนพลเรือนผู้เสียชีวิตจากปฏิบัติการทางอากาศถูกวิจารณ์อย่างหนักในสหรัฐฯ และประเทศอื่น

ยังไม่มีฝ่ายใดที่บรรลุชัยในสงครามนี้ แต่ได้สร้างความป่นปี้ให้เยเมน ซึ่งเป็นประเทศที่ยากจนที่สุดในกลุ่มอาหรับ ในขณะที่ แรงสนับสนุนของสหรัฐฯต่อซาอุฯ ก็ลดน้อยถอยลงเรื่อยมา

สงครามเยเมน
คำบรรยายภาพ,สงครามเยเมนยืดเยื้อมา 5 ปีแล้ว

พันธมิตรรายใหญ่สองคนของเจ้าชายโมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน คือโดนัลด์ ทรัมป์ และวลาดิเมียร์ ปูติน แต่การที่ซาอุฯ สั่งเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันเมื่อต้นปี สร้างความรำคาญใจให้ผู้นำทั้งสอง เพราะได้สร้างความเสียหายต่อเศรษฐกิจของทั้งสหรัฐฯและรัสเซีย

ความสัมพันธ์กับอิหร่านก็ยังอยู่ในภาวะสงครามเย็น ส่วนความสัมพันธ์กับกาตาร์ก็ดีขึ้นเพียงเล็กน้อย

หันมาดูกิจภายในประเทศ เจ้าชายโมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน เร่งชูนโยบายผลักดันปรับประเทศให้มีความเสรีมากขึ้น ยกเลิกคำสั่งห้ามผู้หญิงขับรถ และอนุญาตให้ไปโรงภาพยนตร์ หรือไปในที่ที่ปะปนกับเพศชายอย่างงานคอนเสิร์ต หรืองานแข่งรถได้

ผู้หญิงซาอุฯ ขับรถ

มองเผิน ๆ ซาอุฯ ในวันนี้ความเคร่งขรึมดูลดลงมาก แต่หลังฉาก การปราบปรามทางการเมืองเริ่มหนักขึ้นเรื่อย ๆ ใครก็ตามที่ตั้งคำถามเกี่ยวกับนโยบายของพระองค์ก็เสี่ยงถูกจับหรือติดคุกในข้อหา “เป็นภัยต่อความมั่นคงของชาติ”

การลงโทษด้วยการตัดคอยังแพร่หลาย และซาอุฯ ก็ยังเป็นหนึ่งในประเทศที่ถูกกลุ่มคุ้มครองสิทธิมนุษยชนวิพากษ์วิจารณ์มากที่สุด

ทั้งหมดนี้ ชี้ให้เห็นว่า ซาอุฯ ยังเป็นตัวละครหลักในเศรษฐกิจโลก และตามกำหนดจะเป็นเจ้าภาพการประชุมกลุ่มจี 20 ในเดือน พ.ย. แต่ในขณะเดียวกันบรรดาพันธมิตรก็รู้สึกอึดอึดที่ต้องร่วมวงด้วย

Latest Posts