ซาอุดีอาระเบีย จะยังเป็น “ขุมทอง” ของแรงงานไทยได้เหมือนในอดีตหรือไม่

b9d58530e5370d6096bf03b6fb5f6a75_small
AFP/Getty Images
ภาพเมื่อปี 2016 คนงานก่อสร้างกำลังสร้างถนนตัดใหม่ในกรุงริยาดของซาอุดีอาระเบีย อันเป็นปีเดียวกับที่ เจ้าชายมุฮัมมัด บิน ซัลมาน บิน อับดุลอะซีซ อัลซะอูด มกุฎราชกุมาร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมแห่งซาอุดีอาระเบีย ทรงประกาศแผนปฏิรูปเศรษฐกิจและสังคมครั้งใหญ่เรียกว่า “วิสัยทัศน์ 2030” (Vision 2030) มุ่งหมายให้ประเทศยุติ “การเสพติด” น้ำมัน ตั้งเป้ารายได้ของประเทศที่ไม่ได้มาจากน้ำมันให้เพิ่มขึ้นหลายสิบเท่า

ภายหลัง “ความสำเร็จ” ของการเยือนซาอุดีอาระเบียเพื่อรื้อฟื้นความสัมพันธ์ที่ร้าวฉานกว่า 30 ปี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม สั่งเดินหน้าจัดหาแรงงานทันที และให้เห็นผลเป็นรูปธรรมอย่างชัดเจนภายใน 2 เดือน

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ระบุเรื่องนี้ในเอกสารข่าวเพื่อสื่อมวลชน เมื่อ 27 ม.ค. หลังการเยือนของนายกฯ เพียง 2 วัน

ก่อนหน้านี้ พล.อ. ประยุทธ์ กล่าวว่าการเยือนครั้งนี้เป็น “ความสำเร็จในการฟื้นฟูความสัมพันธ์ไทย – ซาอุดีอาระเบีย ให้กลับมาอยู่ใน ‘ระดับปกติ’ อย่างสมบูรณ์ ” ยทำให้ทั้ง 2 ประเทศได้รับโอกาสในการร่วมมือ 9 ด้าน ได้แก่ ท่องเที่ยว พลังงาน แรงงาน อาหาร สุขภาพ ความมั่นคง การศึกษาและศาสนา การค้าและการลงทุน กีฬา

นายกฯ กล่าวว่า “ไทยมีแรงงานฝีมือและกึ่งฝีมือที่มีศักยภาพจำนวนมาก ที่จะช่วยสนับสนุน โครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานรูปแบบต่าง ๆ ใน “วิสัยทัศน์ซาอุดีอาระเบีย ค.ศ. 2030″ (Saudi Vision 2030)”

ด้านสำนักงานแรงงานในประเทศซาอุดีอาระเบียเปิดเผยว่า หลังการพบกันของผู้นำ 2 รัฐบาล ทางสำนักงานได้รับการติดต่อจากเอเยนต์จัดหางานในซาอุดีอาระเบียจำนวนมาก เว็บดูหนัง

Latest Posts