ประเทศ”ซาอุดิอาระเบีย” น่าลงทุนแค่ไหน!!!

ประเทศ"ซาอุดิอาระเบีย" น่าลงทุนแค่ไหน!!!

ซาอุดีอาระเบีย เป็นประเทศที่เรามักไม่ค่อยเห็นชาวต่างชาติเดินทางไปเพื่อท่องเที่ยวอย่างเดียวเพราะส่วนใหญ่แล้วชาวต่างชาติที่เดินทางเข้าไปเป้าหมายหลักคือการเข้าไปทำงานหรือเดินทางเพื่อไปประกอบพิธีทางศาสนา

ตอนนี้ ซาอุดีอาระเบีย กำลังต้องการกลุ่มนักท่องเที่ยวทำไมเป็นแบบนั้น ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟังซาอุดีอาระเบียคือ ประเทศที่ผลิตน้ำมันมากที่สุดลำดับที่ 2 ของโลก โดยสามารถผลิได้ 12 ล้านบาร์เรลต่อวันปัจจุบัน ที่นี่มีปริมาณสำรองน้ำมันดิบเท่ากับ 297,700 ล้าบาร์เรล หรือประมาณ 17% ของปริมาณสำรองน้ำมันดิบของทั้งโลก ซึ่งทำให้ซาอุดีอาระเบียสามารถผลิตน้ำมันดิบได้อีกประมาณ 70 ปีที่นี่ยังเป็นประเทศที่ส่งออกน้ำมันมากที่สุดอันดับที่ 1 ของโลก โดยสามารถส่งออกได้วันละ 8.3 ล้านบาร์เรลต่อวันปัจจุบัน ราคาน้ำมันดิบลดลงมากกว่าเท่าตัวจากที่เคยขึ้นไปถึง 145 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ในปี 2008ทำให้หลายประเทศ โดยเฉพาะประเทศผู้ผลิตน้ำมันดิบรายใหญ่อย่างซาอุดีอาระเบียมีรายได้ลดลงอย่างมาก จนทำให้ช่วงหลังเศรษฐกิจในประเทศพลอยได้รับผลกระทบไปด้วย

ปี 2008 รายได้จากการส่งออกน้ำมันของซาอุดีอาระเบีย 9.5 ล้านล้านบาท
ปี 2018 รายได้จากการส่งออกน้ำมันของซาอุดีอาระเบีย 7.2 ล้านล้านบาท
ด้วยขนาดเศรษฐกิจของซาอุดีอาระเบียที่ 23.2 ล้านล้านบาท หมายความว่า รายได้จากการส่งออกน้ำมันมีสัดส่วนเกือบ 1 ใน 3 ของมูลค่า GDP
ดังนั้น การพึ่งพารายได้จากการส่งออกน้ำมันด้วยสัดส่วนที่มาก อาจทำให้ประเทศมีความเสี่ยง ถ้าราคาน้ำมันลดลงในอนาคตพอเรื่องเป็นแบบนี้ รัฐบาลของซาอุดีอาระเบีย จึงมีแนวคิดที่จะผลักดันอุตสาหกรรมท่องเที่ยวเพื่อสร้างรายได้ให้ประเทศมากขึ้น ซึ่งเป็นหนึ่งในแผนการปฏิรูปเศรษฐกิจของประเทศโดยภายในปี 2030 ซาอุดีอาระเบียต้องการรายได้จากนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น ไปอยู่ที่ประมาณ 10% ของมูลค่า GDP จากปัจจุบันที่อยู่เพียง 2% เท่านั้นทำให้รัฐบาลมีการลงทุนโครงการขนาดใหญ่ที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวหลายแห่ง โดยใช้เงินลงทุนไปกว่า 600,000 ล้านบาท เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เข้ามาในอนาคต นอกเหนือจากนโยบายให้วีซ่าแก่กลุ่มนักท่องเที่ยวมากขึ้น
เรื่องนี้เป็นเรื่องน่าสนใจ เพราะในอดีตนั้น ซาอุดีอาระเบียเป็นประเทศปิดในสายตาคนภายนอก

มาตอนนี้ ต้องเริ่มหันมาพึ่งพาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ
หลายประเทศที่เศรษฐกิจเริ่มเติบโตช้า อย่างญี่ปุ่นที่ต้องหันมาใช้อุตสาหกรรมท่องเที่ยวขับเคลื่อนเศรษฐกิจภายในประเทศมากขึ้น ด้วยการผ่อนคลายการเดินทางเข้าออกประเทศแก่นักท่องเที่ยวต่างชาติซึ่งเราคนไทยน่าจะภูมิใจว่า เราเป็นหนึ่งในประเทศที่มีนักท่องเที่ยวมากสุดของโลก ในขณะที่มีหลายประเทศอยากเป็นแบบเราปิดท้ายด้วยข้อมูลที่น่าสนใจ
บริษัท Saudi Aramco ซึ่งถือหุ้นโดยรัฐบาลซาอุดีอาระเบีย 100% นั้นเป็นบริษัทพลังงานและปิโตรเคมีครบวงจรแห่งชาติโดยมีธุรกิจตั้งแต่การสำรวจและผลิตน้ำมันดิบ โรงกลั่นน้ำมัน ไปจนถึงธุรกิจปลายน้ำอย่างปิโตรเคมีในปี 2018 Saudi Aramco มีรายได้เท่ากับ 10.8 ล้านล้านบาท และมีกำไรเท่ากับ 3.4 ล้านล้านบาท ซึ่งทำให้ Saudi Aramco เป็นบริษัทที่มีกำไรมากที่สุดในโลก โดยมีกำไมากว่า ปตท. ประมาณ 28 เท่าแม้ว่าปัจจุบัน บริษัท Saudi Aramco ไม่ได้อยู่ในตลาดหลักทรัพย์แต่ถ้าให้มูลค่าของ Saudi Aramco ซื้อขายกันด้วย P/E ประมาณ 12 เท่า เท่ากับ P/E ของหุ้นปตท. ในปัจจุบัน
มูลค่าของบริษัท Saudi Aramco จะเท่ากับ 41 ล้านล้านบาท ซึ่งจะใหญ่กว่า Microsoft บริษัทที่ใหญ่สุดในโลกปัจจุบันที่มีมูลค่าบริษัท 32 ล้านล้านบาท 
และ Saudi Aramco จะมีมูลค่าใหญ่กว่า GDP ของประเทศซาอุดีอาระเบียเกือบเท่าตัวเลยทีเดียว

Latest Posts